Operation Research(OR) Part2 For Industrail Engineering
บทที่
4 ปัญหาการขนส่งและ
ปัญหาการกําหนดงาน (Transportation Problems
and Assignment Problems)

จบไปเเล้วสำหรับ Part แรก เจอกัน Part ต่อไปฮะ อย่าลืมติดตามกันนะ
ปัญหาการขนส่ง
กำหนดให้
Sm คือ แหล่งผลิตแต่ละแห่งมีความสามารถในการผลิต
Dn คือ
ความต้องการของตลาดหรือความสามารถในการเก็บสินค้าของ คลังสินค้าแต่ละแห่ง
Cij คือ
ค่าใช้จ่ายในการส่งสินค้าจากแหล่งผลิต i ไปยังตลาด j ต่อหน่วย *และถ้าการส่งสินค้าจากแหล่งผลิตหนึ่งไปยังตลาดหนึ่งเป็นไป
ไม่ได้จะกําหนดให้ Cij เท่ากับ Infinity
Xij คือ
ปริมาณสินค้าจากแหล่งผลิต i ที่ถูกส่งไปยังตลาด j เมื่อ i = 1,
2, .……., m และ j
= 1, 2,
.……., n
ดังนั้นจํานวนตัวแปรตัดสินใจจึงมีเท่ากับ
m x n ตัว สมการขอบข่ายจึงมีเพียง
m + n – 1 สมการ ที่เป็นอิสระต่อกัน
ซึ่งต้องน้อยกกว่าหรือเท่ากับจำนวนตัวแปรมูลฐาน
(หมายความว่าจำนวนจุดที่เกิดการขนส่งจะเท่ากับ m + n – 1 ถ้าน้อยกว่าจะเป็นสภาวะซ้อนสถานะ), (จำนวนตัวแปรมูลฐาน=จำนวนจุดที่เกิดการขนส่ง)
วิธีการคำนวนเราจะสมมุติให้ตลาดเเละโรงงานมีจำนวนเท่ากัน
แต่ถ้าไม่เท่าเราจะกำหนด ตลาดหรือโรงงานสมมุติขึ้นมา
ซึ่งขึ้นกับว่าตลาดหรือโรงงานน้อยกว่ากัน
Eg.
ซึ่งจากตาราง จะมีค่า C=M (Million) และ X=0 บางจุดซึ่งโรงงานจะไม่ขนส่ง
เนื่องจากสาเหตุเช่น ค่าใช้จ่ายสูง
และค่า C ของตลาดสมมุติจะ = 0 ทั้งหมด
วิธีการประมาณค่า Z ของ Least Cost
จากตาราง
ขั้นตอนการหา
- หาค่าเลขของ ต่าขนส่งต่อชิ้น ว่าส่งจากไหนไปไหน น้อยที่สุด
- Focus ที่จุดนั้นแล้ว เอาค่า Demand หลักนั้น - Supply แถวนั้น ถ้า Supply = 0 หรือ Demand =0 ก็ขีดแถบนั้นทิ้ง แล้วหา ตาม 1. ต่อไปเรื่อยๆจนหมด
- จากการตรวจว่าผลรวม Demand = ผลรวม Supply ทำให้ได้ว่าการหาครั้งสุดท้ายจะ = 0 พอดี
- M+N-1 คือจำนวนโรงงานกับจำนวนที่จะส่ง จะต้องมีค่า เท่ากับ จำนวนที่ๆต้องขนส่งตามทีเฉพาะจุดๆไปรวมกัน ค่าที่นับได้มากกว่าได้ แต่น้อยกว่าจะเป็นสภาวะซ้อน = เลิกทำ
- คำนวนค่า Total cost =ผลรวม จำนวนที่ขนส่ง ณ จุดนั้น × ราคา
- ****แต่ละจุดในการหา 2. ต้องระบุจำนวนที่ส่งไปด้วยเพื่อมาคำนวณ
Eg.
วิธีการประมาณค่า Z ของ North-West Corner
จากตาราง
- Focus จุด โรงงาน 1 ไปยัง ตลาด 1 แล้วทำการเอาค่า Demand หลักนั้น - Supply แถวนั้น ถ้า Supply = 0 หรือ Demand =0 ก็ขีดแถบนั้นทิ้ง
- ทำต่อไปโดยคิดตัวถัดไปทางด้านขวาของแถวนั้น
- แล้วมาเริ่มที่มุมซ้ายบนของตารางเหมอืนเดิม ไปจนครบ คือ Demand and Supply = 0 ทุกช่อง คล้ายๆวิธี Least Cost
- ทำตาม ข้อ 5. Least Cost ต่อไปเพื่อหา Z
Eg.

วิธีการประมาณค่า Z ของ Vogale
- นำสองอันดับที่มีค่าน้อยสุดในเเถวๆ หลักๆนั้นๆมาลบกัน
- ดูว่าส่วนต่างไหนมากสุด focus แถว หรือ หลัก ที่ได้ แล้วFocus ที่ค่าส่งน้อย (เพราะต้นทุนต่ำ)
- เอาค่า Demand หลักนั้น - Supply แถวนั้น ถ้า Supply = 0 หรือ Demand =0 ก็ขีดแถบนั้นทิ้ง
- ทำการดำเนืน 1. ใหม่โดยไม่นำส่วนที่ตัดออกมาคิด
- หา M+ N -1
- หา Total cost
- วิธีดีเกือบสุด
การหาผลลัพธ์เหมาะที่สุดโดยวิธี สเตปปิ่งสโตน (Stepping Stone
Method)
จะต้องมีเส้นทางเดิน (Path) เชื่อมต่อจุดที่ต้องการหาของตัวแปรอมูลฐานตัวหนึ่งกับจุด
ยอดที่เป็นตัวแปรมูลฐานที่มีอยู่จนกระทั่งสร้างเป็นทางเดินแล้ววนกลับมายังจุดที่เป็นตัวแปรอมูลฐานตัวเดิม
*ถ้าของตัวแปรอมูลฐานบางตัวเท่ากับศูนย์ขณะที่การหาผลลัพธ์ได้ผลที่ดีที่สุดแล้วจะทําให้
ปัญหาการขนส่งนั้นๆ มีผลลัพธ์เหมาะที่สุดมากกว่าหนึ่งชุด
มีวิธีขั้นตอนดังนี้
เมื่อได้ตารางมาเเล้ว
- หา C bar จากช่องที่ไม่มีการขนส่งก่อน (เป็นค่าราคาต่อหน่วย)
- ทำการหมุนจากจุดนั้น (ทวนหรือตามก็ได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นล็อคสี่เหลี่ยมหรือติดกันเเต่มีข้อเเม้อยู่ว่า เมื่อถึงจุดถัดไปเเล้วต้องเปลี่ยนทิศ) ต่อจุดกับจุดที่มีการขนส่งวนมายังจุดนี้ ซึ่งจะเป็นการหาค่า C bar โดยเป็นการรวมค่าที่มี Pattern คือ + - + - (เป็นการรวมค่า C ที่ไม่ได้มีเเค่ +อย่างเดียว) จนกระทั้งวนมาจุดเริ่มต้นคือ +
กรณี C bar มีค่าต่างๆดังนี้
- ถ้าเป็น + ทุกจุดในตารางจะได้ ปัญหาที่ Optimal Solution
- ถ้าเป็น - บางจุดหรือมากกว่า ก็ต้องเลือกค่า C bar ที่ติดลบมากสุดไป Improve ก่อน
- ถ้ามี = 0 จะได้ว่าชุดคำตอบที่ดีที่สุดมีได้ มากกว่า 1 คำตอบ
- หาก C bar ติดลบ ให้ Focus จุดที่มีการขนส่งน้อยสุด (Xij) ของ Pattern - ในการได้มาซึ่ง C bar ที่ติดลบ จากนั้นนำค่า Xij ที่เลือก ไป + - + - ตาม Pattern เดิมนี้ ที่จำนวนขนส่งของเเต่ละช่องของการได้มาซึ่งค่า C bar ติดลบ
- จากนั้นเราจะได้ตารางใหม่เเล้วทำตาม 1.
- *วิธีการหาคำตอบอื่นๆเมื่อ C bar = 0 ที่จุดนั้นๆ ก็ทำเหมือนว่า C bar มันติดลบ แต่ ไม่ต้องหมุนใหม่เฉยๆ เราก็จะได้ค่า Xij ที่ C bar = 0 นั้นเปลี่ยนไปจากเดิม แต่ Z จะเท่าเดิม
Eg.
ปัญหาการกําหนดงาน
งมีจํานวนเครื่องจักรเท่ากับจํานวนงาน งานแต่ละงานจะถูกดําเนินการให้แล้ว
เสร็จโดยเครื่องจักรหนึ่งๆ เท่านั้น และเครื่องจักรทุกเครื่องจะทํางานได้เพียงงานเดียว
ณ เวลานั้นๆ สําหรับ
ค่าใช้จ่ายในการทํางานหนึ่งโดยเครื่องจักรที่ต่างกันอาจจะไม่เท่ากัน
โรงงานแห่งหนึ่งมี
เครื่องจักร n เครื่อง คือ M1 , M2 ,
……… , Mn
มีงานแตกต่างกันอยู่ n งาน
คือ J1 , J2 ,
……… , Jn
ให้ Cij เป็นค่าใช้จ่ายในการทํางาน j โดยเครื่องจักร I
ตัวแปรตัดสินใจ
คือ
Xij จะมีค่าเป็น 1 หรือ 0 เท่านั้น
โดยกําหนดให้
Xij =
1 เมื่อกําหนดงาน j ให้กับเครื่องจักร i
Xij
= 0
เมื่อไม่กําหนดงาน j ให้กับเครื่องจักร i
การหาผลลัพธ์มูลฐานที่เป็นไปได้ของปัญหาการขนส่งจะต้องมีตัวแปรมูลฐานเท่ากับ n + n -1
ตัวแปรมูลฐานอีก n – 1 ตัวมีค่าเป็นศูนย์
จึงเป็นสาเหตุให้เกิดสภาวะซ้อนสถานะและทําให้ประสิทธิภาพการ หาผลลัพธ์ช้าลง
วิธีฮังกาเรียน
(Hungarian Method) มีวิธีการดังนี้
กรณี Objective=Minimize
- นำค่าน้อยที่สุดในแถว || หลัก ไปลบกับค่า แถว || หลัก นั้นๆ ทุกๆเเถว || หลัก
- ลากเส้นตรงผ่านเลข 0 ให้มากที่สุดและใช้เส้นตรงน้อยสุด
กรณีจำนวนเส้นตรงมีจำนวนดังนี้
- ถ้าจำนวนเส้นตรง = จำนวนคนงานหรือเครื่องจักร ก็จะสามารถหาจับคู่ระหว่างงานกับเครื่องจักรหรือคนได้ต่อไปตามข้อ 4.
- ถ้าจำนวนเส้นตรงน้อยกว่า จำนวนคนงานหรือเครื่องจักร ให้ทำตามข้อ 3. ต่อไปนี้
- เลือกพิจารณาเฉพาะตัวเลขข้อมูลที่ไม่มีเส้นตรงตัดผ่าน จากนั้นนำค่าที่น้อยสุดไปลบทุกตัว(รวมตัวมันเองด้วย) จากนั้นลากเส้นตามวิธีที่ 2. ****(กรณีมีเส้นตรงที่มีจุดตัด ให้เรานำค่าที่น้อยสุดที่เราพิจารณาจากข้อ3.นี้ไป+กับจุดตัดนั้น)
- ทำการจับคู่งานกับคนโดยเริ่มจากเลือกช่องที่มีเลข 0 อยู่เเถวเดียวซึ่งจะเป็นคู่กันระหว่างงานกับคน เเล้วได้คู่แรกไป จากนั้นพิจาณาไปเรื่อยๆ โดยใช้วิธีเลือกแบบนี้ไป การจับคู่งานอาจมีหลายคำตอบได้ จากนั้นนำค่า Cij เริ่มแรกมารวมกันตามจุดนั้นๆ
กรณี Objective=Maximize
- นำ -1 คูณเข้าทุกค่าของ Cij
- จากนั้นก็ทำตามวิธีแบบ Minimize เพราะจากการคูณเข้า ทำให้รูปแบบเป็นเหมือนกัน
*หากจำนวนงานกับคนทำงานไม่เท่ากันก็เพิ่มจำนวนแบบ
Dummy ขึ้นมา
เหมือนกับการเพิ่มสมมุติโรงงานหรือตลาด
Eg.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น